ส่วนพื้นที่ท็อปโฟร์ ก็ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ เมื่ออีก 3 ทีม นอกจาก ‘เรือใบสีฟ้า’ เป็นทีมที่ไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในซีซั่นที่ผ่านมา ทางด้านอันดับ 2 การันตีแล้วว่าเป็น อาร์เซนอล ที่คงต้องร้องเพลง ‘ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง’ เพราะเป็นจ่าฝูงอยู่ 248 วัน แต่กลับได้แค่กินแห้วทำตาแป๋วๆจากหยดน้ำตา

ที่ 3 ที่ 4 อาจมีพลิกระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิล แต่ไม่ได้มีผลอะไร ยกเว้นเงินรางวัล ที่ไม่ทำให้เจ้าของทีมขนหน้าแข้งร่วง เพราะฝั่งนึงรวยมาก ส่วนอีกด้านก็เกาะสโมสรกินเป็นปลิงอยู่แล้ว

โควต้า ยูโรป้า ลีก ยืนยันแล้วว่าเป็น ลิเวอร์พูล และ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ซึ่งทัพ ‘นกนางนวล’ คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ได้ไปเล่นรายการยุโรป

แต่ในส่วนของ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ยังต้องแย่งชิงกันระหว่าง แอสตัน วิลล่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยฝั่ง ‘สิงห์ผงาด’ เป็นผู้คุมชะตาชีวิตตัวเอง เพราะมีแต้มเป็นต่ออยู่ 1 คะแนน ในขณะที่ลูกได้เสีย 4 ประตูเท่ากัน และทีมที่พลาดโควต้านี้ จะทำได้แค่เปิดทีวีดูเพื่อนอยู่บ้านพร้อมกับดื่มสุราก้าวหน้าเป็นการย้อมใจ

พื้นที่กลางตารางไม่มีอะไรน่าสนใจ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติเหมือนทุกซีซั่น ยกเว้นแค่คำถามว่า “เชลซี เอ็งไปทำอะไรตรงนั้นเพื่อน?” นั่นครึ่งล่างของตารางนะเว้ยเห้ย

ส่วนที่เดิมพันมากสุดคือศึกหนีตายระหว่าง เอฟเวอร์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยจะมีผู้รอดชีวิตแค่หนึ่งทีม สถานการณ์ในตอนนี้คือ ‘ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน’ กุมความได้เปรียบ มี 33 คะแนน โดยจะพบกับ บอร์นมัธ ในขณะที่ ‘จิ้งจอกสยาม’ พบ เวสต์แฮม และ ‘ยูงทอง’ พบ สเปอร์ส โดยมี 31 คะแนนเท่ากัน แต่ฝั่งทีมเจ้าของคนไทย ลูกได้เสียดีกว่าถึง 9 ประตู 

ทั้ง 3 ทีมจะได้ลงเตะในบ้านทั้งหมด ซึ่งการันตีได้เลยว่า ทีมไหนรอดตกชั้นขึ้นมาก็ตาม บรรดาแฟนบอล คงวิ่งลงสนามเฉลิมฉลองไม่ต่างจากที่สาวก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่างแน่นอน และประเมินจากสถานการณ์แล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่ฤดูกาลหน้าจะยังมี เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ต่อไป

มาถึงย่อหน้าสุดท้ายของซีซั่นนี้ เป็นเวลาหลายเดือนที่แฟนบอลต่าง เชียร์ทีมรักผ่านเรื่องราวมากมายตลอด 38 นัด และจากนี้คงต้องเหงากันไปอีกหลายเดือน ก่อนที่จะพบกันใหม่ในฤดูกาลหน้า แล้วเจอกัน พรีเมียร์ลีก 2023/24

เขียนโดย The Lite Team.